ความคิดเริ่มแรกของโครงการนี้ เกิดจาก สุแจ้ง สุขสวัสดิ์ หรือแจ้ง เยาวชนในชุมชนซึ่งเป็นทีมงานโครงการศึกษาธรรมชาติโดยศิลปวิธี มีความคิดอยากสอนเด็กในชุมชนเล่นดนตรี ด้วยว่าพอมีทักษะการเล่นดนตรีอยู่บ้าง แจ้งจึงปรึกษาลุงอ๋อย (ประธานมูลนิธิฯ) ถึงความตั้งใจดังกล่าวและได้ยินไปถึงหูพี่โอ๊ค (กรรมการมูลนิธิฯ และนักดนตรีมือฉมัง) พี่โอ๊คจึงยอมสละเครื่องดนตรีครบวงชุดเก่าของตัวเองไปให้แจ้งได้ฝึกปรือฝีมือ
ด้วยสมาชิกวงกลิ่นดินทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 ปัจจุบันได้เติบโต และเริ่มขยับขยายตัวเองไปสู่ระดับที่โตขึ้น น้อง ดุ๊ก มือกีตาร์ วงกลิ่นดินรุ่นที่ 1 ปัจจุบัน (พ.ศ.2553) เรียนอยู่คณะดุริยางคศิลป์ เอกกีตาร์คลาสสิค มหาวิทยาลัย บ้านสมเด็จ ชั้นปีที่ 1 และมักจะง่วนอยู่กับการฝึกซ้อมและการเรียนที่จริงจังขึ้น น้องเอฟ มือกลอง วงกลิ่นดินรุ่นที่ 1 กำลังจะจบ ชั้น ม.6 และตั้งเป้าในคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่จะเลือกเรียน เอกกลอง ในขณะที่น้องคน อื่นๆในวงก็เริ่มทะยอยแยกย้ายไปเรียนในต่างอำเภอ รวมถึง สุแจ้ง ซึ่งเป็นหัวหน้าวง ก็เริ่มมองเห็นภาพการเติบโต ของการทำงานของตนเองไปสู่สาขาอื่นๆ ที่มากขึ้น จึงเป็นเหตุให้การดำเนินโครงการดนตรีรักษ์สิ่งแวดล้อมต้องยุติ บทบาทลงในกลางปี พ.ศ.2553 แต่อย่างไรก็ดี วงกลิ่นดิน ยังคงมีการรวมตัวกันเฉพาะกิจ และขึ้นแสดงบทเพลงธรรมชาติเป็นบางครั้งบาง คราวในโอกาสพิเศษ และในอีกหลายครั้งที่แยกเล่นเดี่ยวหรือเล่นร่วมกับวงอื่น เรื่องราวของวงกลิ่นดินในโครงการดนตรีรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ยังคงปรากฎเป็นหลักฐานอยู่ คือ ผลงานดนตรี ชุด "ใต้ร่มใหญ่" และเมล็ดพันธุ์รักษ์สิ่งแวดล้อมเล็กๆ ที่ถูกปลูกเพาะผ่านประสบการณ์การทำกิจกรรมสื่อสารเรื่อง ราวธรรมชาติผ่านเสียงดนตรี ที่ส่งผ่านความสุขให้กับตนเองและชุมชน